ให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบคำถามประเด็นต่อไปนี้ (40 คะแนน)
1.ความหมายคำว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา เทศบัญญัติ
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ เป็นกฏหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศหรือปกครองรัฐ และยังเป็นแม่บทของกฏหมาย ซึ่งมีการกำหนดเกี่ยวกับการจัดระบบการปกครองของประเทศ และยังรับรองสิทธิเสรีภาพบางประการของประชาชนและพลเมืองไว้
พระราชบัญญัติ คือ เป็นกฎหมายที่มีรองลงมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ตราขึ้นเป็นกฎหมาย บังคับใช้แก่ประชาชน เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีฐานะสูงกว่าบทกฎหมายอื่น ๆ นอกจากรัฐธรรมนูญ ก่อนประกาศใช้บังคับ พระราชกำหนด
พระราชกำหนด คือ เป็นกฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหาร
การออกพระราชกำหนดจะต้องเป็นกรณี เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของประเทศ
ความปลอดภัยของสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ หรือแก้ไขภัยพิบัติสาธารณะ
ซึ่งต้องเป็นกรณีฉุกเฉิน ที่มีความเร่งด่วน อันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งเป็นการด่วนและลับ
เพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินเท่านั้น
พระราชกฤษฎีกา คือ เป็นกฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหาร
โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ รัฐธรรมนูญ หรือ
พระราชบัญญัติ หรือ พระราชกำหนด
ได้เปิดช่องทางและมอบให้ฝ่ายบริหารสามารถออกกฎหมายที่กำหนดรายละเอียดปลีกย่อยเอาเอง
เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด แล้วแต่กรณี
เทศบัญญัติ คือ เป็นกฎหมายที่ออกโดยองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
ซึ่งได้อำนาจ ในการออกกฎหมายมาจากพระราชบัญญัติบางฉบับแล้วแต่กรณี
ทั้งนี้เพื่อใช้บังคับ เฉพาะในเขตปกครองของตนเท่านั้น
2.กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้เป็นอย่างไร หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการปกครองประเทศปัจจุบันเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ เป็นกฎหมายที่ให้สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคแก่คนไทยทุกคน ประเทศไทยใช้ระบบสองสภา แตกต่างจากในอดีตที่ใช้ระบบสภาเดี่ยว รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับกำหนดให้ผู้แทนราษฎรมาจากการเลือกตั้งและการแต่งตั้งแตกต่างกันไป เช่นเดียวกับพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้นั้น ต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมให้มากที่สุด คือต้องเคารพในสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ของคนในประเทศเป็นส่วนใหญ่ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทย หากไม่มีรัฐธรรมนูญดิฉันคิดว่าประเทศไทยเราคงจะเกิดความวุ่นวายโดยไม่มีที่สิ้นสุด เพราะทุกคนจะเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก ไม่มีความเท่าเทียมกัน ดั้งนั้นประเทศเราควรที่จะมีกฎหมายรัฐธรรมนูญไว้ เพื่อให้ประเทศของเรามีความระเบียบอย่างเป็นระบบ
3.ในสภาพปัจจุบันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 มีนักวิชาการต้องการจะแก้ไขท่านคิดว่าควรที่จะแก้ไขหรือไม่ประเด็นใดอธิบายให้เหตุผล
ตอบ มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี” ดิฉันคิดว่าไม่ต้องแก้ไขแล้วเพราะมาตรา 112 นี้ เหมาะสมแล้ว และสิ่งที่นักวิชาการต้องการแก้ไขนั้นเพราะประโยชน์ส่วนตัวของตัวเอง ไม่นึกถึงคนอื่นๆว่าจะมีผลกระทบหรือปัญหาอะไรตามมา
4. กรณีเกิดความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านเรื่องชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เป็นกรณีพิพากขึ้นศาลโลกเรื่องดินแดนท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งมองปัญหานี้อย่างไร และจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเพื่อมิให้ไทยต้องเสียดินแดน
ตอบ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านเรื่องชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ในฐานะที่ดิฉันเป็นคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งน่าสนใจมากเพราะเรื่องเกิดขึ้นมาจากการตีความแผนที่คนละแผ่นกัน จึงทำให้เป็นเหตุให้มีการบุกล้ำพื้นที่ระหว่างกัน โดยมีทหารหรือคนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ทำการก่อเหตุ จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อคนที่อาศัยอยู่ในแถบนั้น และที่สำคัญคือ กรณีของเขาพระวิหารที่ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้เลย สำหรับดิฉันคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาและใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา เพื่อผลประโยชน์แก่ประเทศตนเองและส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นให้น้อยที่สุด
5. พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ท่านเห็นด้วยกับประเด็นนี้หรือไม่ อธิบายให้เหตุผล
ตอบ ดิฉันเห็นด้วยกับที่ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา เพราะ พระราชบัญญัติการศึกษาและรัฐธรรมนูญการศึกษานั้นล้วนเกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งสิ่ง เพื่อพัฒนาการศึกษาของไทยเราให้มีคุณภาพและศักยภาพมากยิ่งขึ้น
6. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ขอให้นักศึกษาให้ความหมาย การศึกษา การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาตลอดชีวิต การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย สถานศึกษา สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการศึกษา การประกันคุณภาพภายใน การประกันคุณภาพภายนอก ผู้สอน ครู คณาจารย์ ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษา
ตอบ การศึกษา หมายถึง กระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นกระบวนการให้ส่งเสริมให้บุคคลเจริญเติบโตและมีความเจริญงอกงามทางกาย อารมณ์ สังคม
และสติปัญญาจนเป็นสมาชิกของสังคมที่มีคุณธรรมสูง
การศึกษา หมายถึง เป็นการสร้างคนให้มีความรู้
ความสามารถมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นมีลักษณะนิสัยจิตใจที่ดีงาม
มีความพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อตนเองและสังคม มีความพร้อมที่จะ
ประกอบการงานอาชีพได้
การศึกษาช่วยให้คนเจริญงอกงาม ทั้งทางปัญญา จิตใจ ร่างกาย และสังคม
การศึกษาจึงมีความจำเป็นต่อชีวิตอีกประการหนึ่ง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา
การศึกษาตลอดชีวิต หมายถึง เป็นการจัดกระบวนการทางการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาในรูปแบบของการศึกษาในระบบโรงเรียน
การศึกษานอกระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจะมุ่งให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง
มุ่งพัฒนาบุคคลให้สามารถพัฒนาตนเอง
และปรับตนเองให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของสังคมการเมืองและเศรษฐกิจของโลก
การศึกษาในระบบ หมายถึง เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา
หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษาการวัดและประเมินผล
ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
การศึกษานอกระบบ หมายถึง เป็นกระบวนการจัดการศึกษาให้ผู้พลาดโอกาสเรียนจากระบบการศึกษาปกติ
หรือผู้ต้องการพัฒนาตนเอง ได้รับการเรียนรู้ โดยเน้นการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียน
ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนได้รับโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
การศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง เป็นการมุ่งให้เกิดการเรียนรู้ตามอัธยาศัย โดยเกื้อหนุนให้ผู้เรียนกําหนด/เลือกวิธีการเรียนเอง
ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตลอดเวลา โดยมีเป้าหมายเพื่อทําให้บุคคลมีโอกาสแสวงหาและรับความรู้
ทักษะ ทัศนคติ ความเข้าใจ อันจะนําไปสู่การพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม
สถานศึกษา หมายถึง หน่วยงานตามกฎหมายที่มีหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นของทั้งภาครัฐหรือภาคเอกชน อย่างเช่น โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิยาลัย หรือ หน่วยงานการศึกษาอื่นๆ
สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานการศึกษา หมายถึงจุดประสงค์ของการจัดการการศึกษา เป้าหมาย หรือข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามที่ต้องการจัดการศึกษาและอาจรวมไปถึงเป้าหมายการศึกษาของแต่ละสถานที่ เพื่อใช้ในการประเมินผลและประกันคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพภายใน หมายถึง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการทางการศึกษา ว่าการดำเนินการจัดการศึกษาของสถานศึกษามีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนมีคุรภาพหรือมีคุณลักษณะที่พึ่งประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนด
การประกันคุณภาพภายนอก หมายถึงเป็นการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา การติดตามโดยผู้ประเมินภายนอกที่ได้รับการรองรับจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
ผู้สอน หมายถึง ผู้ที่ให้ความรู้ ถ่ายทอดความรู้แก่ผู้เรียน
ซึ่งได้แก่ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ
ครู หมายถึง บุคลากรวิชาชีพที่มีหน้าที่หลักทางด้านการเรียนและส่งเสริมการเรียนของผู้เรียนด้านวิธีการต่างๆในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
คณาจารย์ หมายถึง บุคคลที่มีหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน
7.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการในการจัดการศึกษา อย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมายในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาให้คนไทยเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบทั้งร่างกาย
จิตใจ สติปัญญา ความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตและอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข โดยมีหลักในการจัดการศึกษาคือ เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและการพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
8.มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะ มีวิธีการทำอย่างไร
ตอบ
9.หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ นักศึกษาที่ต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูพ.ศ. 2547
2. เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ได้รับวุฒิปริญญาตรีทางการศึกษาหรือปริญญาตรีที่มีความรู้พื้นฐานทางวิชาชีพครู 3. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือได้รับหนังสือรับรองสิทธิ์การประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
4. ไม่เป็นพระภิกษุสามเณร นักพรต นักบวช
10.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นว่าเมื่อเรียนวิชานี้ นักศึกษาได้อะไรบ้างครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog มีความเหมาะสมและเป็นไปได้อย่างไร วิจารณ์แสดงความคิดเห็น และถ้าจะให้น้ำหนักวิชานี้ ควรให้เกรดอะไร และนักศึกษาคิดว่าตนเองจะได้เกรดอะไร
ตอบ ในการเรียนวิชากฏหมายการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog นั้น ดิฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่นักศึกษาทุกคนต้องเรียนรู้วิธีการใช้และเราสามารถนำWeblogที่ผู้สอนได้สอนและแนะนำไว้ไปประยุกต์ใช้กับวิชาเรียนอื่นๆได้อีกด้วยและเป็นเทคโลโยีที่ทันสมัยควรที่จะศึกษาและเรียนรู้ต่อไป ซึ่งเหมาะสมเป็นอย่างมากแก่การเรียนการสอน เราสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และทำให้เรารู้เกี่ยวกับกฏหมายการศึกษามากขึ้น รู้จักคิด วิเคราะห์มากขึ้นอีกด้วย ส่วนการให้น้ำหนักคะเเนนของรายวิชานี้ ดิฉันให้เกรด A และดิฉันคิดว่าตนเองน่าจะได้เกรด A เพราะดิฉันส่งงานครบทุกชิ้น และตั้งใจทำงานทุกชิ้นที่อาจารย์สั่งค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น